ประเทศบรูไน


ความเป็นมาของประเทศบรูไน
บรูไน (มลายู: Brunei) หรือ เนอการาบรูไนดารุสซาลาม[15] (Negara Brunei Darussalam, ยาวี: نݢارا بروني دارالسلام‎; แปลว่า บรูไนนครรัฐแห่งสันติภาพ) เป็นประเทศบนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางด้านเหนือจรดทะเลจีนใต้ พรมแดนทางบกที่เหลือจากนั้นถูกล้อมรอบด้วยรัฐซาราวักของมาเลเซียตะวันออก บรูไนเป็นประเทศเดียวที่มีพื้นที่ทั้งหมดอยู่บนเกาะบอร์เนียว ส่วนพื้นที่ที่เหลือของเกาะถูกแบ่งเป็นของประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ข้อมูลเมื่อ 2023 ประเทศนี้มีประชากร 455,858 คน[11] ในจำนวนนี้อาศัยอยู่ในบันดาร์เซอรีเบอกาวัน เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุด ประมาณ 180,000 คน มีภาษามลายูเป็นภาษาราชการและศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ แม้ว่าศาสนาอื่น ๆ ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการ รัฐบาลบรูไนปกครองโดยสุลต่านภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ และกฎหมายที่ผสมผสานระหว่างคอมมอนลอว์ของอังกฤษและนิติศาสตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศาสนาอิสลาม รวมถึงชะรีอะฮ์ด้วย จักรวรรดิบรูไนเจริญถึงขีดสุดในสมัยสุลต่านโบลเกียห์ (ค.ศ. 1485 – 1528) โดยอ้างว่าสามารถควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาะบอร์เนียวได้ อาทิรัฐซาราวักและซาบะฮ์ในปัจจุบัน และกลุ่มเกาะซูลูกับหมู่เกาะที่ปลายตะวันตกเฉียงเหนือของบอร์เนียว และยังมีการอ้างสิทธิ์ในอดีตควบคุมเหนือเซอลูดงที่นักวิชาการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เชื่อว่าชื่อของสถานที่ดังกล่าวนั้นแท้จริงแล้วเป็นการอ้างอิงถึงเขาเซอลูรงในประเทศอินโดนีเซีย[16]หรือแม่น้ำเซอรูดงในซาบะฮ์ตะวันออก[17] ลูกเรือที่รอดชีวิตในเรือจากการสำรวจของมาเจลลันเดินทางเยือนรัฐบรูไนใน ค.ศ. 1521 และใน ค.ศ. 1578 จึงสู้รบต่อสเปนในสงครามกัสติยา ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิบรูไนเริ่มเสื่อมอำนาจ สุลต่านยอมยกซาราวัก (กูจิง) ให้เจมส์ บรูก และแต่งตั้งให้เป็นรายาขาว จากนั้นซาบะฮ์ก็ตกเป็นของบริษัทเอ็นบีซีซีของอังกฤษ ใน ค.ศ. 1888 บรูไนกลายเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษและได้รับมอบหมายให้เป็นพลเมืองอังกฤษในฐานะผู้บริหารอาณานิคมเมื่อ ค.ศ. 1906 หลังญี่ปุ่นเข้ายึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มีการเขียนกฎหมายสูงสุดฉบับใหม่ขึ้น และใน ค.ศ. 1962 เกิดกบฏติดอาวุธต่อระบอบกษัตริย์สิ้นสุดลงด้วยความช่วยเหลือของอังกฤษ และนำไปสู่การแบนพรรคประชาชนบรูไนที่สนับสนุนเอกราช การกบฏยังมีอิทธิต่อการตัดสินพระทัยของสุลลต่านที่ไม่เข้าร่วมสหพันธรัฐมาลายาที่กำลังสถาปนาขึ้น ความเป็นรัฐในอารักขาของอังกฤษเหนือบรูไนสิ้นสุดในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1984 ทำให้บรูไนกลายเป็นรัฐเอกราชอย่างเต็มตัว บรูไนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก (ปริมาณการผลิตน้ำมันประมาณ 180,000 บาร์เรล/วัน)[18] และยังเป็นสมาชิกสหประชาชาติ, องค์การการค้าโลก, การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก, องค์การความร่วมมืออิสลาม, ขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด, เครือจักรภพแห่งประชาชาติ และอาเซียน
1.การแต่งการของประเทศบรูไน

การแต่งกายของบรูไนคล้ายกับมาเลเซีย โดยผู้ชายจะสวมชุดบาจู มลายู (Baju Melayu) และผู้หญิงสวมชุดบาจูกุรุง (Baju Kurung) ชุดเหล่านี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมแบบอนุรักษ์นิยมของบรูไน ซึ่งเป็นประเทศมุสลิม และเน้นการแต่งกายที่มิดชิดและสุภาพ รายละเอียดเพิ่มเติม: บาจู มลายู (Baju Melayu): ชุดสำหรับผู้ชาย ประกอบด้วยเสื้อแขนยาว ตัวเสื้อยาวถึงเข่า นุ่งกางเกงขายาว แล้วนุ่งโสร่งทับอีกชั้นหนึ่ง บาจูกุรุง (Baju Kurung): ชุดสำหรับผู้หญิง เป็นชุดที่คลุมร่างกายตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า มักมีสีสันสดใส ความสำคัญ: การแต่งกายของบรูไนสะท้อนถึงศาสนาอิสลามและวัฒนธรรมของประเทศ ซึ่งให้ความสำคัญกับการแต่งกายที่เรียบร้อยและปกปิดร่างกาย ข้อควรระวัง: ควรหลีกเลี่ยงการสวมเสื้อผ้าสีเหลือง เพราะเป็นสีของสถาบันพระมหากษัตริย์ และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่มีลวดลายสัตว์

อาหารของประเทศบรูไน


อัมบูยัต เป็นอาหารพื้นเมืองในเกาะบอร์เนียว ในรัฐซาราวักและบรูไน และถือเป็นอาหารประจำชาติของบรูไนด้วย โดยทำจากแป้งของปาล์มสาคูที่ขูดออกจากลำต้นมากวนให้สุกซึ่งจะเหนียวเหมือนแป้งเปียก ใช้จันดัสซึ่งคล้ายตะเกียบแต่ปลายข้างหนึ่งติดกัน จุ่มแล้วม้วนก้อนแป้งกินเป็นคำ ๆ โดยรับประทานคู่กับซอสเปรี้ยวที่เรียกว่าชาชะฮ์ทำจากผลบินไยหรือผลลำพู นอกจากนั้นยังกินกับซัมบัลเตอราซี หรือซัมบัลเติมโปยก (น้ำพริกทุเรียนดอง) และกับข้าวอื่น ๆ ได้แก่ ผัดใบมัน ผักบุ้งผัดกะปิ ปลาย่าง เนื้อย่าง เป็นต้น ในอดีตใช้เป็นอาหารเมื่อขาดแคลนข้าว

สัตว์ของประเทศบรูไน


สัตว์ประจำชาติบรูไนคือ อินทรีทะเลท้องขาว. ถึงแม้ว่าบางแหล่งข้อมูลจะระบุว่า เสือโคร่ง เป็นสัตว์ประจำชาติบรูไน โดยอ้างอิงถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่มีภูเขาและป่าไม้หนาแน่น แต่ข้อมูลล่าสุดจากแหล่งที่เชื่อถือได้ระบุว่าอินทรีทะเลท้องขาวเป็นสัตว์ประจำชาติของบรูไน.

ดอกไม้ของประเทศบรูไน


ดอกไม้ประจำชาติของบรูไนคือ ดอกซิมปอร์ (Simpor) หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดอกส้านชะวา (Dillenia)。 ดอกซิมปอร์เป็นดอกไม้สีเหลืองสดใส มีกลีบดอกขนาดใหญ่ 5 กลีบ เมื่อบานเต็มที่กลีบดอกจะมีลักษณะคล้ายร่ม พบได้ทั่วไปตามแม่น้ำในบรูไน และยังปรากฏอยู่บนธนบัตร 1 ดอลลาร์บรูไน รวมถึงใช้เป็นลวดลายในงานศิลปะต่างๆ ด้วย。 ดอกซิมปอร์ยังมีความเชื่อว่ามีสรรพคุณช่วยรักษาบาดแผลได้อีกด้วย.

เมืองหลวงของประเทศบรูไน


บันดาร์เซอรีเบอกาวัน หรือ บันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของประเทศบรูไนดารุสซาลาม อยู่ในเขตการปกครองบรูไน-มัวรา มีประชากรประมาณ 60,000 คน เดิมชื่อว่า เมืองบรูไน ภายหลังเมื่อบรูไนพ้นจากการเป็นเมืองขึ้นในลักษณะแบบคุ้มครองของอังกฤษแล้ว จึงเปลี่ยนชื่อมาเป็นบันดาร์เซอรีเบอกาวัน